ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

กาลิเลโอ (Galileo)

กาลิเลโอ (Galileo)

ผลงาน : - ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์เป็นคนแรก

- ประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้มเป็นคนแรก

- ค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัส 4 ดวง

กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ และนาฬิกาลูกตุ้มเป็นคนแรก เขาเป็นผู้คัดค้านทฤษฎีของอริสโตเติลที่ว่า วัตถุหนักจะตกเร็วกว่าวัตถุที่เบากว่า และหักล้างทฤษฎีของอริสโตเติลที่กล่าวว่า ดวงอาทิตย์โคจรรอบโลก ความเชื่อของกาลิเลโอ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นความคิดที่ขัดต่อศาสนา จนถูกจับไปทรมาน และถูกยังคับให้แสดงให้สาธารณชนเห็นว่าคำกล่าวของเขานั้นผิด เขาโชคร้ายที่มีชีวิตอยู่ในช่วงที่ประชาชนมีความหวาดกลัวต่อความคิดใหม่ แต่สำหรับในปัจจุบัน เขาได้รับยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก

กาลิเลโอ กาลิเลอิ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี บิดาของเขาเชี่ยวชาญในทางคณิตศาสตร์ และการดนตรีมาก หลังจากกาลิเลโอเกิดไม่กี่ปี ครอบครัวของเขาก็ย้ายภูมิลำเนาจากเมืองปิซา ไปอยู่เมืองฟลอเรนซ์ ตลอดเวลาที่เรียนกาลิเลโอก็ได้แสดงให้เห็นว่ามีความเฉลียวฉลาดพอที่จะเรียนต่อในคณะแพทยศาสตร์ สมตามที่บิดาของเขามุ่งหวังไว้ได้

กาลิเลโอสนใจวิชาการแพทย์น้อย ที่เรียนก็ด้วยความจำใจและเบื่อหน่าย แต่เมื่อถึงคราวเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เขาจะตื่นเต้น และเรียนได้อย่างสนุก

วันหนึ่งขณะที่กาลิเลโอ นั่งอยู่ในโบสถ์ เขาพบว่าการแกว่งของตะเกียงแต่ละครั้งมีระยะวงกว้างไม่เท่ากัน วงที่แกว่างกว้างน่าจะกินเวลานานกว่า กาลิเลโอคิดอย่างนี้ แต่เพื่อให้แน่ใจ เขาจึงลองจับชีพจรของเขา เพื่อทดสอบเวลาการแกว่งของตะเกียง ผลปรากฏว่าการแกว่งทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นวงกว้างหรือวงแคบใช้เวลาเท่ากันทุกครั้ง กาลิเลโอกลับไปทำการทดลองที่บ้านอีก จากผลงานชิ้นนี้เอง เขาได้ตั้งกฎเกี่ยวกับการแกว่งของลูกตุ้มนาฬิกาขึ้น และเขายังได้ใช้กฎนี้ประยุกต์ทำเครื่องจับเวลาขึ้นมาด้วย

อริสโตเติลได้บอกว่า วัตถุหนักจะตกเร็วกว่าวัตถุที่เบากว่า และทุกคนตั้งแต่สมัยของอริสโตเติลก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น น้อยคนนักที่จะกล้าสงสัยหรือตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อริสโตเติลได้เขียนเอาไว้ แต่กาลิเลโอพูดว่า ถ้าขึ้นไปบนหอเอนเมืองปิซา แล้วทิ้งวัตถุ 2 ชิ้นลงมา ชิ้นหนึ่งหนักกว่าอีกชิ้นหนึ่ง วัตถุทั้ง 2 จะตกถึงพื้นพร้อมกัน เพราะวัตถุทั้ง 2 ตกด้วยความเร็วที่เท่ากัน ประชาชนในเมืองปิซ่าโกรธแค้นกาลิเลโอมากที่เขากล้ามีความคิดค้านอริสโตเติล และประชาชนในยุคนั้นก็ไม่ชอบที่จะให้มีการพิสูจน์ว่าความเชื่อถือของตนนั้นผิด ใน ค.ศ. 1592 เขาต้องถูกขับออกจากมหาวิทยาลัย และประชาชนเสื่อมความนิยมลงไปมาก ปีเดียวกันนี้เอง กาลิเลโอไปอยู่มหาวิทยาลัยปาดัง (Padua) และทำการสอนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้นานถึง 18 ปี

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1610 กาลิเลโอได้ค้นพบสิ่งที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่ง คือค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัส 4 ดวง ด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่เขาสร้างขึ้นเอง ในสมัยนั้นประชาชนเชื่อตามอริสโตเติลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างหมุนรอบโลกและความเชื่อเช่นนี้ยังเชื่อถือกันสืบต่อมา หลังจากยุคของโคเปอร์นิคัสมาอีกราว 60 ปี ทั้ง ๆ ที่โคเปอร์นิคัส ได้พรรณนาให้ทราบแล้วว่าดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจรรอบดวงอาทิตย์ การค้นพบของกาลิเลโอ แสดงให้เห็นว่า ดวงจันทร์ของดาวพฤหัสนั้น โคจรรอบดาวพฤหัส เช่นเดียวกับที่โคเปอร์นิคัสกล่าวว่า ดวงจันทร์ของโลกโคจรรอบโลก นี่เป็นความเห็นที่ตรงกันของโคเปอร์นิคัส และกาลิเลโอ

ในช่วงสุดท้ายแห่งชีวิต กาลิเลโอเก็บตัวเงียบ เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก แต่เขายังคงสอนสานุศิษย์ของเขาอยู่เหมือนเดิม ว่างการสอบก็วิเคราะห์วิจัย และสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ และแต่งตำราที่ใหญ่ยิ่งในชีวิตของเขาว่าด้วยการเคลื่อนที่และเครื่องกล

กาลิเลโอ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1642 ขณะมีอายุได้ 78 ปี

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น